Chanel Perfection Lumiere เป็นรองพื้นอีกตัวที่โบชื่นชอบและใช้เป็นประจำในช่วงนี้ค่ะ ไม่ใช่ว่าเป็นคนที่ชอบใช้แต่ของแพงหรือติดแบรนด์แต่อย่างใด เพราะรองพื้นตัวนี้ใช้แล้วสีเข้ากับผิวเราที่สุด ที่สำคัญไม่ทำให้แพ้ด้วย การเลือกรองพื้นของแต่ละสภาพผิวก็เป็นสิ่งสำคัญที่ละเลยไม่ได้นะค่ะ
ก้นขวดจะระบุสีและวันหมดอายุหลังเปิดใช้ไว้ชัดเจน |
รองพื้นบรรจุอยู่ในขวดแก้วสีขาวขุ่น |
หัวปั้มเป็นสีดำ ซึ่งใช้งานได้สะดวก |
ข้อมูลจากเวปไซต์
ขนาด 30 ม.ล.
ราคา(เยอรมนี) 46.99 ยูโร
มีให้เลือก 8 เฉดสี (เยอรมนี) 3 โทนสี ได้แก่
Beige, Beige ambre (เบจอมเหลือง), Beige rose (เบจอมชมพู)
คุณสมบัติ : เนื้อบางเบา
matt finish ติดทนนานถึง 15 ชม.
ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นผิวที่สอง
ปกปิดเนียนไร้ที่ติ ทั้งรอยกระ รอยแดงและรอยสิว
มีค่าป้องกันแสงแดด SPF 10
Beige, Beige ambre (เบจอมเหลือง), Beige rose (เบจอมชมพู)
คุณสมบัติ : เนื้อบางเบา
matt finish ติดทนนานถึง 15 ชม.
ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นผิวที่สอง
ปกปิดเนียนไร้ที่ติ ทั้งรอยกระ รอยแดงและรอยสิว
มีค่าป้องกันแสงแดด SPF 10
ส่วนประกอบทั้งหมดอยู่ด้านหลังกล่องจ้า |
มาดูการ สวอชสีรองพื้นกันดีกว่า จะเห็นว่าสีที่ปั้มออกมาจากขวดโดยตรงจะดูไม่เข้มมากเท่าไหร่ แต่เมื่อใช้นิ้วเกลี่ยจะได้สีที่เข้มขึ้นมานึดนึงค่ะ
without blend |
after blend with finger |
เนื้อรองพื้นมีความเหลวปานกลางแต่ไม่เท่า Chanel Vitalumiere Aqua ทำให้เกลี่ยง่ายและเพิ่มความหนาของรองพื้นได้ 2 ชั้น สีที่ได้เป็นโทนเหลืองผสมโทนกลาง มันเหมาะกับคนที่หาสีรองพื้นยาก เพราะหลายๆแบรนด์ก็โทนเหลืองไป ชมพูไป แต่ถ้าใครสีผิวแบบเดียวกับโบละก็แนะนำของชาแนลเลยคะ รุ่นนี้เนี่ยติดทนนาน 8-10 ชม. พอรองพื้นเซทตัวซักพักสีก็จะเข้มขึ้นนิดนึงคะ ดังนั้นเวลาเลือกสีต้องดูดีๆก่อนตัดสินใจซื้อ
สภาพผิวที่ใช้ได้ก็จะเป็นผิวธรรมดาและผิวผสมค่ะ ผิวแห้งและผิวมันมากๆนั้นไม่แนะนำ เพราะเนื้อรองพื้นจะไปเน้นบริเวณผิวที่แห้งลอกให้เห็นชัดเจนมากขึ้นแลดูไม่งามแน่นอน แล้วถ้ายิ่งคุณเป็นสาวผิวมันแล้วละก็มันจะทำให้มันเยิ้มระหว่างวันได้แต่หากชอบรองพื้นตัวนี้จริงๆให้ใช้ไพร์เมอร์ที่ควบคุมความมันควบคู่ไปด้วยก็จะแก้ปัญหาตรงนี้ได้ระดับหนึ่งค่ะ เค้ามีส่วนผสมของน้ำหอมด้วยนะจ๊ะ คนไหนที่แพ้อยู่ต้องอ่านส่วนประกอบให้ดีๆก่อนซื้อ เพราะเสียทรัพย์ไปแต่มาแพ้อีกอันนี้แย่เลย
without foundation |
โบเป็นคนผิวผสมค่ะ แต่ช่วงนี้ค่อนไปทางแห้งเนื่องจากอากาศเย็นขึ้น
ข้อกังวลคือรอยสิว กระและสิวฮอร์โมน
with Chanel Perfection Lumiere #40 Beige |
นี่เป็นรูปที่ลงรองพื้นเดี่ยวๆ ไม่ได้ทาไพร์เมอร์หรือแป้งฝุ่น ปกติโบจะใช้ 2 ปั๊มทั่วทั้งหน้า หลังลงรองพื้นตัวนี้จะเห็นได้ว่า รอยกระหายไป รอยสิวเห็นเป็นรอยจางๆ ส่วนสิวอักเสบบริเวณมุมปากด้านล่างยังมองเห็นอยู่นิดหน่อย ส่วนรอบจมูกที่แห้งก็เห็นเป็นขุยๆเล็กน้อย
complete make up |
นี่คือรูปหลังแต่งหน้าเรียบร้อยแล้วค่ะ จะเห็นว่ามันดูโอเคกว่าการลงรองพื้นเดี่ยวๆมากเลย ลุคนี้โบแต่งหน้าแบบธรรมชาติ และใช้ลิปสติกที่ชอบในช่วงนี้ Chanel Rouge coco shine #87 สีชมพูหวานเพิ่มความชุ่มชื่นให้ริมฝีปากด้วย (แอบนอกเรื่องไปป่ะ !!)
Over all review : ส่วนตัวแล้วชอบรองพื้นตัวนี้มาก เพราะเฉดสีเข้ากับสีผิว ให้การปกปิดปานกลางแต่สามารถบิ้วได้โดยใช้แปรงลงรองพื้น ให้ความรู้สึกดูเป็นธรรมชาติไม่โบ๊ะ ดูเนียนเรียบเข้ากับผิวหน้า เหมาะกับสาวผิวธรรมดาและผิวผสม ข้อเสียคือ ราคาค่อนข้างแพงถ้าเทียบกับรองพื้นที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป มีส่วนผสมของน้ำหอมซึ่งถ้าคนที่ไม่ชอบกลิ่นหรือแพ้ก็จะใช้ไม่ได้ ให้คะแนน 9/10
หวังว่ารีวิวจะเป็นประโยชน์กับสาวๆที่สนใจรองพื้นตัวนี้อยู่นะค่ะ แต่การที่เราได้ลองตัวอย่างก่อนการตัดสินใจก็จะดีมาก เพราะผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน อาจจะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันได้ และหากเราเสียทรัพย์ไปแล้วได้มาในสิ่งที่ไม่ประทับใจ ก็ถือเป็นการเสียตังค์โดยใช่เหตุ จริงมั้ยละค่ะ ?
Comments
Post a Comment