Skip to main content

ทำผมสี "COKE" ดำประกายแดง ด้วยตัวเอง




เชื่อว่าสาวๆหลายคนเคยลองย้อมผมเองมาเกือบทุกคน
บางคนโชคดีก็สวยไป แต่บางคนโชคร้าย สีที่ได้ก็ไม่สม่ำเสมอ ปัญหาสารพัดตามมา เลยถอดใจไปย้อมที่ร้านดีกว่า  กว่าโบจะย้อมผมให้สวยได้ก็ลองมาหลายครั้งเหมือนกันค่ะ  แต่การอยู่เมืองนอกทำให้โบพยายามและพัฒนามากขึ้นเพราะอยากจะประหยัดเงิน




ครั้งนี้โบลองใช้ของ Ganier Olia ดู เพราะอ่านสรรพคุณแล้วชอบ  
คิดว่ามันน่าจะดี ไม่ทำร้ายผมมากเกินไป ราคา 5,95€ บางร้านจะมีโปรก็จะขายถูกกว่านี้หน่อยนึง

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนการย้อมสีคือ สภาพผมของเราว่าเคยกัดสีมามั้ย? ติดสียากรึเปล่า? 
ส่วนไหนติดสีง่ายที่สุด เพราะบางคนโคนติดง่าย แต่โบเนี่ยจะตรงข้ามค่ะ ไม่รู้ทำไม ?

พื้นผมโบเป็นสีน้ำตาลกลาง เคยกัดสีมาก่อน
การย้อมทีโทนคล้ายกันเลยไม่ใช่เรื่องท้าทายอะไร  
สีติดแน่นอน แต่ต้องลุ้นว่าจะเป็นน้ำตาลหรือบรอนส์เท่านั้นเอง




ลักษณะกล่องจะใหญ่กว่ายี่ห้ออื่นหน่อย
เพราะขวดผสมเค้านี่แหละ ดูซิ ใหญ่ยักษ์จับถนัดมือเชียว ฮ่าๆๆ 




สิ่งที่ให้มาก็เหมือนยาย้อมผมทั่วไปคือ
คู่มือ
ถุงมือ 2
สีผสม 2 
ครีมนวดหลังทำสี




มาเริ่มย้อมกันเลยละกัน
1.เตรียมอุปกรณ์เพิ่มเติมด้วยเช่น 
วาสลีน ไว้ทาไรผมเวลาย้อมสีจะได้ไม่เลอะ
2.คนที่ผมสีอ่อนหรือเคยกัดสีผมมาก่อนแล้ว 
ให้ลงสีที่ส่วนโคนผมก่อน จากนั้นค่อนลงส่วนที่เหลือ
3.ทิ้งไว้ 35-40 นาที
4.ล้างผมออกด้วยน้ำอุณภูมิปกติ จากนั้นใช้ทรีทเม้นผมหมักไว้ 3 นาที 
เพื่อให้ผมไม่แห้งสีหลังทำผม ล้างสีผมด้วยแชมพู 2 รอบตามด้วยทรีทเม้น 
แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ



สีผมหลังทำวันแรก
ได้น้ำตาลโทนแดงเวลาออกแดด 


สีผมหลังทำ 2 อาทิตย์
เริ่มเฟตและสีอ่อนลงกว่าวันแรก  ได้สีอย่างที่เห็นข้างกล่องเป๊ะเลยค่ะ  
แต่ปลายผมแอบแห้งนิดหน่อย


สรุปผลการใช้
สีย้อมผมไม่เหม็น  ให้สีชัดเจนโดยไม่ต้องกัดสีก่อน  
ราคาย่อมเยา  หาซื้อง่าย  มีจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป
ให้คะแนน 5/5 ไปเลย

Comments

Popular posts from this blog

การจัดโต๊ะเครื่องแป้ง 2013

มาอัพเดทโต๊ะเครื่องแป้งจร้าา หลังจากที่ทำคลิปแบบนี้ไว้ปีที่แล้ว  โต๊ะยังเป็นตัวเดิมนะคะ เป็นโต๊ะไม้สีขาว แนววินเทจ  ตัวนี้มาพร้อมกับเก้าอี้วินเทจเช่นกัน(ลืมถ่ายรูปซะงั้น) ปีนี้มีการตกแต่งเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้หรู อลังการเหมือนกูรูดังๆในต่างประเทศหรอกนะคะ  แค่อยากเอามาแชร์กับเพื่อนๆ  เผื่อจะได้ไอเดียในการออกาไนซ์เครื่องสำอางมากขึ้น ที่จริงเราก็ไม่ได้จัดโต๊ะทุกวันนะ  แต่ก็พยายามทำให้มันสะอาด  ดูน่านั่ง  และหาของง่ายขึ้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆเป็นอย่างยิ่งคะ  ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนไอเดียกันนะ   รูปภาพบางส่วนจ้า ตรงนี้คือ ส่วนของสกินแคร์และเครื่องสำอางที่ใช้บ่อยในช่วงนี้  ก็จะเอามาจัดวางในชั้นวางขนม  เราชอบมาก เพราะเห็นลายและสีมันน่ารักดี ส่วนตรงกลางเราจะวางถาดใสที่บรรจุลิปสติก ลิปกลอส ดินสอไลเนอร์และที่เขียนคิ้ว ส่วนด้านหลังจะวางกระบอกแปรงแต่งหน้า ด้านขวาของโต๊ะ  จะเป็นหมวดอายชาโดว์พาเลท...

DIY flower headband ทำที่คาดผมดอกไม้เก๋ๆด้วยตัวเอง

    มาสาธิตการทำที่คาดผมดอกไม้ด้วยตัวเอง  วิธีการทำก็ง่ายมาก   แถมได้ที่คาดผมดีไซน์เก๋ๆ  ไม่เหมือนใครอีกด้วย   แรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดฮาวทูนี้ขึ้นมาคือที่คาดผมสวยๆในเยอรมนีแพงเหลือเกิน   อันสวยๆเกือบ 20 ยูโร  โบเลยเกิดไอเดียที่จะทำสิ่งนี้ใช้เองเพื่อประหยัดเงินในกระเป๋าคะ    ถ้าใครอยากรู้ว่าทำยังไง  เชิญชมได้เลยคะ อุปกรณ์ 1.ที่คาดผม          2.ดอกไม้ปลอมที่ชอบและใบไม้    3.กรรไกร     4.กาวร้อน (เวลาใช้ระวังหน่อยนะคะ  อาจจะลวกมือได้)

รีวิวเปรียบเทียบรองพื้น YSL le teint touche ft. YSL youth liberator

      รองพื้นยี่ห้อ YSL มี 2 ตัวที่กำลังเป็นที่นิยมของบรรดาสาวๆที่ชอบลุคดิวอี้  โกลว์ๆ  ดูเป็นธรรมชาติ นั่นคือ  YSL le teint touche และ  YSL youth liberator         เฉดสีมีให้เลือก 3 โทนสี คือ B - เบจ(ผิวสีกลางๆไม่อมเหลืองหรือชมพู)   BD - เบจอมเหลือง(ผิวสีเหลืองอันเดอร์โทน)  BR - เบจอมน้ำตาล(ผิวสีน้ำตาลหรือชมพูอันเดอร์โทน)  งงกันรึเปล่าเอ่ย?  สำหรับสาวเอเชียโบว่าน่าจะใช้ B หรือ BD คะ  เหมาะที่สุด  แต่ถ้าสาวผิวสี NC42 ขึ้นไปคงต้องเลือก BR  แต่ถ้าจะให้ชัวร์แนะนำให้ไปลองที่เคาเตอร์ด้วยตัวเองดีที่สุดคะ       หลายคนที่กำลังเล็งๆอยู่คงจะสงสัยว่า  เอ้.. รองพื้น 2 ตัวนี้มันต่างกันยังไงหนอ?   และเราเหมาะกับรองพื้นตัวไหนมากที่สุด?   เป็นคำถามที่อยู่ในใจเค้าตอนที่จะตัดสินใจซื้อมาใช้เหมือนกันเลย   แต่ตอนนี้เราพบคำตอบแล้วซึ่งมาดูกันเลยดีกว่าว่าแต่ละตัวนั้นมีคุณสมบัติและความต่างอย่างไรบ้าง  ...