Skip to main content

REVIEW : Chanel Perfection Lumiere #40 Beige





      Chanel Perfection Lumiere  เป็นรองพื้นอีกตัวที่โบชื่นชอบและใช้เป็นประจำในช่วงนี้ค่ะ   ไม่ใช่ว่าเป็นคนที่ชอบใช้แต่ของแพงหรือติดแบรนด์แต่อย่างใด  เพราะรองพื้นตัวนี้ใช้แล้วสีเข้ากับผิวเราที่สุด  ที่สำคัญไม่ทำให้แพ้ด้วย    การเลือกรองพื้นของแต่ละสภาพผิวก็เป็นสิ่งสำคัญที่ละเลยไม่ได้นะค่ะ

  

ก้นขวดจะระบุสีและวันหมดอายุหลังเปิดใช้ไว้ชัดเจน

รองพื้นบรรจุอยู่ในขวดแก้วสีขาวขุ่น

หัวปั้มเป็นสีดำ ซึ่งใช้งานได้สะดวก


ข้อมูลจากเวปไซต์
 
  ขนาด 30 ม.ล.  
ราคา(เยอรมนี)  46.99 ยูโร 
  มีให้เลือก 8 เฉดสี (เยอรมนี) 3 โทนสี ได้แก่
Beige, Beige ambre (เบจอมเหลือง), Beige rose (เบจอมชมพู)
คุณสมบัติ : เนื้อบางเบา
matt finish ติดทนนานถึง 15 ชม.
ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นผิวที่สอง
ปกปิดเนียนไร้ที่ติ ทั้งรอยกระ รอยแดงและรอยสิว
มีค่าป้องกันแสงแดด SPF 10



ส่วนประกอบทั้งหมดอยู่ด้านหลังกล่องจ้า

   

      มาดูการ สวอชสีรองพื้นกันดีกว่า   จะเห็นว่าสีที่ปั้มออกมาจากขวดโดยตรงจะดูไม่เข้มมากเท่าไหร่  แต่เมื่อใช้นิ้วเกลี่ยจะได้สีที่เข้มขึ้นมานึดนึงค่ะ    

without blend

after blend with finger


      เนื้อรองพื้นมีความเหลวปานกลางแต่ไม่เท่า Chanel Vitalumiere Aqua   ทำให้เกลี่ยง่ายและเพิ่มความหนาของรองพื้นได้ 2 ชั้น   สีที่ได้เป็นโทนเหลืองผสมโทนกลาง  มันเหมาะกับคนที่หาสีรองพื้นยาก  เพราะหลายๆแบรนด์ก็โทนเหลืองไป  ชมพูไป   แต่ถ้าใครสีผิวแบบเดียวกับโบละก็แนะนำของชาแนลเลยคะ   รุ่นนี้เนี่ยติดทนนาน 8-10 ชม.   พอรองพื้นเซทตัวซักพักสีก็จะเข้มขึ้นนิดนึงคะ  ดังนั้นเวลาเลือกสีต้องดูดีๆก่อนตัดสินใจซื้อ 

      สภาพผิวที่ใช้ได้ก็จะเป็นผิวธรรมดาและผิวผสมค่ะ  ผิวแห้งและผิวมันมากๆนั้นไม่แนะนำ   เพราะเนื้อรองพื้นจะไปเน้นบริเวณผิวที่แห้งลอกให้เห็นชัดเจนมากขึ้นแลดูไม่งามแน่นอน   แล้วถ้ายิ่งคุณเป็นสาวผิวมันแล้วละก็มันจะทำให้มันเยิ้มระหว่างวันได้แต่หากชอบรองพื้นตัวนี้จริงๆให้ใช้ไพร์เมอร์ที่ควบคุมความมันควบคู่ไปด้วยก็จะแก้ปัญหาตรงนี้ได้ระดับหนึ่งค่ะ   เค้ามีส่วนผสมของน้ำหอมด้วยนะจ๊ะ  คนไหนที่แพ้อยู่ต้องอ่านส่วนประกอบให้ดีๆก่อนซื้อ   เพราะเสียทรัพย์ไปแต่มาแพ้อีกอันนี้แย่เลย
  



without foundation

โบเป็นคนผิวผสมค่ะ  แต่ช่วงนี้ค่อนไปทางแห้งเนื่องจากอากาศเย็นขึ้น  
ข้อกังวลคือรอยสิว กระและสิวฮอร์โมน


with Chanel Perfection Lumiere #40 Beige

      นี่เป็นรูปที่ลงรองพื้นเดี่ยวๆ  ไม่ได้ทาไพร์เมอร์หรือแป้งฝุ่น   ปกติโบจะใช้ 2 ปั๊มทั่วทั้งหน้า หลังลงรองพื้นตัวนี้จะเห็นได้ว่า   รอยกระหายไป รอยสิวเห็นเป็นรอยจางๆ  ส่วนสิวอักเสบบริเวณมุมปากด้านล่างยังมองเห็นอยู่นิดหน่อย  ส่วนรอบจมูกที่แห้งก็เห็นเป็นขุยๆเล็กน้อย  


complete make up


      นี่คือรูปหลังแต่งหน้าเรียบร้อยแล้วค่ะ  จะเห็นว่ามันดูโอเคกว่าการลงรองพื้นเดี่ยวๆมากเลย  ลุคนี้โบแต่งหน้าแบบธรรมชาติ  และใช้ลิปสติกที่ชอบในช่วงนี้ Chanel Rouge coco shine #87  สีชมพูหวานเพิ่มความชุ่มชื่นให้ริมฝีปากด้วย (แอบนอกเรื่องไปป่ะ !!) 
  
      Over all review : ส่วนตัวแล้วชอบรองพื้นตัวนี้มาก  เพราะเฉดสีเข้ากับสีผิว  ให้การปกปิดปานกลางแต่สามารถบิ้วได้โดยใช้แปรงลงรองพื้น  ให้ความรู้สึกดูเป็นธรรมชาติไม่โบ๊ะ  ดูเนียนเรียบเข้ากับผิวหน้า  เหมาะกับสาวผิวธรรมดาและผิวผสม   ข้อเสียคือ ราคาค่อนข้างแพงถ้าเทียบกับรองพื้นที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป  มีส่วนผสมของน้ำหอมซึ่งถ้าคนที่ไม่ชอบกลิ่นหรือแพ้ก็จะใช้ไม่ได้  ให้คะแนน 9/10

      หวังว่ารีวิวจะเป็นประโยชน์กับสาวๆที่สนใจรองพื้นตัวนี้อยู่นะค่ะ   แต่การที่เราได้ลองตัวอย่างก่อนการตัดสินใจก็จะดีมาก  เพราะผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน อาจจะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันได้   และหากเราเสียทรัพย์ไปแล้วได้มาในสิ่งที่ไม่ประทับใจ  ก็ถือเป็นการเสียตังค์โดยใช่เหตุ   จริงมั้ยละค่ะ ?



Comments

Popular posts from this blog

รีวิว Dior Primer : Pore minimizer, Glow maximizer

      ช่วงนี้โบชอบใช้ Primer ของ  Dior มากๆเลยทั้ง 2 รุ่น สลับกัน  เลยอยากเอามารีวิวถึงผลลัพธ์ที่ได้และทำไมโบถึงชอบมาเล่าให้ฟังกันจ้า    ถ้าเทียบกับ Primer  ตัวอื่นๆที่ประสิทธิภาพเท่าเทียมกันแล้วราคาก็ไม่ได้แตกต่างกันมากอย่างที่คิดเลย   เดี๋ยวไปดูความคิดเห็นของโบกับไอเทม 2 ตัวนี้กันเลยจ้า       Dior Primer ขนาด 30 มล. ราคา 1400-1800 บาท (แล้วแต่สถานที่จำหน่าย)

รีวิวเปรียบเทียบรองพื้น YSL le teint touche ft. YSL youth liberator

      รองพื้นยี่ห้อ YSL มี 2 ตัวที่กำลังเป็นที่นิยมของบรรดาสาวๆที่ชอบลุคดิวอี้  โกลว์ๆ  ดูเป็นธรรมชาติ นั่นคือ  YSL le teint touche และ  YSL youth liberator         เฉดสีมีให้เลือก 3 โทนสี คือ B - เบจ(ผิวสีกลางๆไม่อมเหลืองหรือชมพู)   BD - เบจอมเหลือง(ผิวสีเหลืองอันเดอร์โทน)  BR - เบจอมน้ำตาล(ผิวสีน้ำตาลหรือชมพูอันเดอร์โทน)  งงกันรึเปล่าเอ่ย?  สำหรับสาวเอเชียโบว่าน่าจะใช้ B หรือ BD คะ  เหมาะที่สุด  แต่ถ้าสาวผิวสี NC42 ขึ้นไปคงต้องเลือก BR  แต่ถ้าจะให้ชัวร์แนะนำให้ไปลองที่เคาเตอร์ด้วยตัวเองดีที่สุดคะ       หลายคนที่กำลังเล็งๆอยู่คงจะสงสัยว่า  เอ้.. รองพื้น 2 ตัวนี้มันต่างกันยังไงหนอ?   และเราเหมาะกับรองพื้นตัวไหนมากที่สุด?   เป็นคำถามที่อยู่ในใจเค้าตอนที่จะตัดสินใจซื้อมาใช้เหมือนกันเลย   แต่ตอนนี้เราพบคำตอบแล้วซึ่งมาดูกันเลยดีกว่าว่าแต่ละตัวนั้นมีคุณสมบัติและความต่างอย่างไรบ้าง             YSL le teint touche แบรนด์ได้เคลมไว้ว่า "เทคโนโลยี “Fit-Osmosis Complex” จะช่วยทำให้รู้สึกว่ารองพื้นเบาบาง แต่ว่าปกปิด อีกทั้งยังมีค่า SPF30 PA+++ มาช่วยป้องกันรังสี UVA

รีวิว CHANEL FALL COLLECTION 2016

        Fall Collection ในปี 2016 มีหลายแบรนด์ที่ทำออกมาน่าสนใจ  สีโทนน้ำตาลอมแดงกำลังฮิตด้วย    กว่าจะตัดสินใจสอยมาลองซักแบรนด์เนี่ยยากมากเลย  ซีซั่นนี้ชอบของ CHANEL มากที่สุด เลยสอยมา 3 ตัวด้วยกันคือ อายชาโดว์ อายไลน์เนอร์และลิปสติกค่ะ แพคเกจจิ้งคงไม่ต้องพูดถึงซินะ สีดำ เรียบหรูตามสไตล์ของชาแนลเหมือนเดิม CHANEL Les 4 Ombres 268 อายชาโดว์เนื้อซาติน พิกเม้นดีงาม เบลนง่าย ไล่จากโทนสีน้ำตาลอ่อนไปถึงน้ำตาลอมแดง  งามมาก  ทาได้ทุกโทนสีผิวค่ะ  ใช้มาเดือนกว่าแล้วจับแต่งตาเกือบทุกครั้งเลย  ข้อเสียอย่างเดียวคือไม่มีสีอ่อนไฮท์ไลท์  ถ้ามีจะครบกว่านี้ 4.5/5 CHANEL Stylo Yeux Waterproof อายไลน์เนอร์สีน้ำตาลชิมเมอร์ ตอนสวอชที่เคาเตอร์หนะชอบมากๆเลย สีสวยดี เนื้อนิ่ม เขียนแล้วไม่ระเคืองตา แต่เค้าไม่ติดทนเลยนะ เราคิดว่าซื้อมาไม่คุ้มเลยจริงๆ ไม่แนะนำค่ะ 3/5 CHANEL Rouge Allure 169 สีแดงอมน้ำตาล เข้ากับสีอายชาโดว์คอลเลคชั่นนี้เป๊ะเลย เนื้อดีงามค่ะ ให้สีชัดเจนอย่างที่เห็นในรูป  ติดทนนานด้วย แนะนำให้สอย 5/5 make up look from this collection